ประวัติหลวงปู่สอ มีนามเดิมว่า สอ แก้วดี เกิดในตระกูลชาวนา เมื่อวันจันทร์ที่ 20 พ.ค. 2448 ปีมะเส็ง ตรงกับปลายรัชกาลที่ 5 เป็นบุตรคนโตในจำนวนพี่น้องร่วม 6 คน โดยเมื่อแรกเกิด มารดาหลวงปู่บอกว่า บุตรชายมีสายรกพันคอ จะได้บวช? ขณะที่ชีวิตในวัยเด็ก มีนิสัยเป็นคนเรียบง่าย อ่อนน้อมถ่อมตน ชอบเข้าวัดฟังธรรม ผิดกับเด็กคนอื่นในวัยเดียวกัน บุพการีจึงได้พาเข้ากราบหลวงปู่สีทัตถ์ จึงเกิดความเลื่อมในศรัทธาขอติดตามไปยังภูเขาควายฝั่งลาว และได้บวชเป็นสามเณรรับใช้อุปัฏฐากเล่าเรียนสรรพวิชา และวิทยาคมต่างๆ จนช่ำชอง กระทั่งอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ จึงเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์อุปสมบท มีหลวงปู่สีทัตถ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ อยู่รับใช้อุปัฏฐากผู้เป็นพระอุปัชฌาย์ระยะหนึ่ง จึงได้ออกธุดงค์ไปตามป่าเขาถ้ำและภูผา จนกระทั่งได้รับทราบข่าวอาการป่วยของมารดา ในขณะที่หลวงปู่มีอายุ 32 ปี จึงลาสิกขามาดูแลบุพการีจนวาระสุดท้าย
หลังจากนั้น จึงเข้าอุปสมบทอีกครั้ง ได้ออกเดินธุดงค์ไปยังสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะตามป่าเขาในพื้นที่ภาคอีสาน ก่อนจะข้ามไปฝั่งลาวที่บ้านบุ่ง อยู่จำพรรู้ษาพัฒนาวัดบ้านบุ่งนานหลายปี ก่อนออกเดินธุดงค์ไปพบหลวงปู่สีทัตถ์ จนท่านมรณภาพ หลังผู้เป็นอาจารย์ละสังขาร จึงเดินทางกลับมาที่ฝั่งไทย จำพรรษาที่วัดโพธิ์ศรี บ้านบะหว้า ต.รามราช อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม
ทั้งนี้ ก่อนที่หลวงปู่ท่านจะมรณภาพลงอย่างสงบ หลวงปูสอ เข้ารักษาตัวด้วยโรคชรา ที่โรงพยาบาลนครพนม และวันที่ 6 ก.ค.62 รถพยาบาลของโรงพยาบาลนครพนม ได้นำหลวงปู่สอ ส่งที่วัดโพธิ์ศรี ถึงบริเวณวัด ประมาณ 18.00 น. ลูกศิษย์นำหลวงปู่สอขึ้นกุฎิ จนกระทั่งเวลา 18.12 น. ท่านได้ละสังขาร ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีอายุยืนรูปหนึ่งในภาคอีสาน ดำรงชีวิตอยู่อย่างเรียบง่าย มีศิษยานุศิษย์มากมาย สายตายังมองเห็นชัด หูได้ยินเป็นปกติ เหงือกและฟันยังอยู่ครบเต็มปาก ฉันท์ภัตตาหารเนื้อปลา ยอดผักสด กล้วยน้ำว้าวันละ 1 ลูก ส่วนเคล็ดลับที่ท่านอายุยืน หลวงปู่สอ เคยเผยว่า ใช้วิชาปั่นธาตุ ซึ่งหมายถึงการนั่งจิตภาวนา สลับธาตุดิน-น้ำ-ลม-ไฟ ในร่างกาย เชื่อว่าจะสามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้