ข้อมูลประวัต หลวงปู่แสน วัดบ้านหนองจิก
ประวัติของหลวงปู่แสน ชื่อเดิมท่านคือ แสน คุ้มครอง เกิดเมื่อขึ้น 10 ค่ำเดือน 10 ปีมะแม ตรงกับวันศุกร์ที่ 11 กันยายน 2451 เป็นบุตรของพ่อเอี้ยง คุ้มครอง และแม่ผัน คุ้มครอง มี่พี่น้องร่วมมารดารวม 6 คน หลวงปู่เป็นบุตรคนที่ 2 ปัจจุบันเหลือหลวงปู่ผู้เดียว พื้นเพเป็นคนบ้างโพง ต.ไพรบึง อ.ขุขันธ์ จ.ขุขันธ์ ปัจจุบันคือ ต.ไพรบึง อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ เมื่อครั้งยังเด็ก หลวงปู่เป็นลูกศิษย์อยู่ที่วัดบ้านโพง และพี่ชายซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านโพงในสมัยนั้นเลี้ยงดู และได้บวชเณรให้หลวงปู่แสนที่วัดบ้านโพง
ระหว่างบวชเณรได้ไปศึกษาเรียนหนังสือกับหลวงพ่อมุม วัดปราสาทเยอใต้ จนจบ ป.4 และได้เรียนตำราพระเวทจากหลวงพ่อมุม ทั้งภาษาขอม ภาษาธรรมบาลี จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ. 2471 อายุ 21 ปี ได้เข้าบรรพชาอุปสมบทที่วัดบ้านโพง ได้นิมนต์หลวงพ่อมุม อินทปญโญ วัดปราสาทเยอ อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ส่วนพระอุปปัชฌาย์ คือ หลวงพ่อบุญมา อาจารย์ของหลวงพ่อมุม วัดประสาทเยอเหนือ และระหว่างเป็นพระยังคงเรียนรู้วิชากับพระอาจารย์มุมอย่างต่อเนื่อง
หลวงปู่ได้รับการถ่ายทอดความรู้วิชาอาคมต่างๆ จากพระอาจารย์จนมีความเชี่ยวชาญทางด้านวิปัสสนากรรมฐาน ฝึกจิตให้กล้าแข็ง มีสมาธิอันแน่วแน่ เพื่อเป็นพลังสื่อนำมาประกอบการใช้คาถาอาคม หลวงพ่อได้เอาใจใส่ฝึกฝนกับพระอาจารย์เจนจัดเชี่ยวชาญ กระทั่งอายุ 24 ปี ได้ลาสิกขาออกมาเพื่อมาช่วยงานทางบ้านที่มีฐานะยากจน แต่หลังจากสึกเป็นฆราวาสแล้ว ท่านได้บวชเป็นหมอธรรม บวชกับคุณพ่อธัมญา บ้านหนองหญ้าปล้อง เป็นระยะเวลาหลายปีเพื่อรักษาคน ปฏิบัติธรรม ช่วยเหลือคนเจ็บไข้ได้ป่วย
ขณะที่เป็นฆราวาส ระหว่างว่างเว้นจากการทำเกษตรกรรม หลวงปู่ได้ชักชวนเพื่อนๆ หมอธรรมเดินทางไปเขมรเพื่อเรียนเพิ่มเติมที่จังหวัดพะตะบอง จ.เสียมราฐ และเมืองศรีโสภณ สมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี ได้เข้าพบพระผู้ใหญ่และอาจารย์จากทางเขมรแล้วได้ร่ำเรียนวิชาอาคมมาไม่น้อย หลวงปู่ท่านกลับเลือกเรียนวิชาที่เกี่ยวกับช่วยเหลือผู้คน รักษาคน
ต่อมาพอหมดภาระทางบ้าน หลวงปู่ได้กลับเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์อีกครั้ง ตอนอายุ 90 ปี บวชที่วัดกุดเสลา มีเจ้าคณะตำบลเป็นพระอุปัชฌาย์ และท่านบวชเป็นพระที่อยู่อย่างสมถะ ไม่มักมาก ไม่ยึดติด เป็นพระนักสร้าง ชาวบ้านกุดเสลาจึงรักและศรัทธาท่านมาก เนื่องจากหลวงปู่ท่านเป็นพระที่มีเมตตา แม้อายุจะย่างเข้า 93 ปี ท่านได้ไปจำพรรษาที่วัดบ้านโพง โดยรักษาการตำแหน่งเจ้าอาวาสวัด ในช่วงนั้นวัดนั้นจะเต็มไปด้วยลูกวัด ในขณะที่จำพรรษาอยู่วัดบ้านโพงได้ทำนุบำรุงวัดเฉกเช่นวัดอื่น
จนอายุ 97 ปี ลูกหลานเป็นห่วงสุขภาพหลวงปู่จึงได้พาชาวบ้านไปนิมนต์หลวงปู่จากวัดบ้านโพงกลับมาจำพรรษาที่วัดหนองจิกจนถึงทุกวันนี้ และท่านกลับมาพัฒนาวัดบ้านหนองจิกดั่งเช่นทุกวัด
วัตถุมงคลของหลวงปู่แสน ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ด้วยเนื่องจากวัตถุมงคลของท่านมีประสบการณ์แคล้วคลาดปลอดภัย ผู้นำไปใช้มีโชคลาภมากมาย จึงทำให้มีชื่อเสียงภายในเวลาอันรวดเร็ว และเป็นที่นิยมทั้งในประเทศและต่างประเทศ
หลวงปู่แสน ได้ละสังขารอย่างสงบแล้ว เมื่อเวลา 22.24 น.ของคืนวันที่ 25 กรกฎาคม ที่กุฏิภายในวัดบ้านหนองจิก สิริอายุรวม 112 ปี