มีนามเดิม หวล การเกตุ เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 29 ส.ค.2472 พื้นเพเดิมอยู่ ต.สามง่าม อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง
เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ บรรพชาที่วัดกษัตราธิราชวรวิหาร
ต่อมาย้ายมาอยู่ที่วัดพุทไธศวรรย์ และเข้ารับการอุปสมบทที่วัดพุทไธศวรรย์ เมื่อวันที่ 12 มี.ค.2494 มีพระราชธานินทร์ (หลวงพ่อเจิม) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระกุศลธรรมธาดา เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระสมุห์ยอด เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า ภูริภัทโท
ใช้ชีวิตอยู่ในสมณเพศด้วยความมุ่งมั่นและด้วยการปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบตลอดมา จึงได้รับการแต่งตั้งให้รักษาการเจ้าอาวาสในปี 2497 แทนพระครูสาธุกิจโกศลที่มรณภาพ
ต่อมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.2498
เป็นผู้นำในการบูรณะซ่อมแซมโบราณสถาน โบราณวัตถุภายในวัดให้มีสภาพสวยงามมั่นคงแข็งแรง อุโบสถ วิหาร พระพุทธรูปภายในพระระเบียงรอบองค์พระปรางค์ พระพุทธรูปภายในวิหารต่างๆ หลายหลัง
นอกจากนี้ ยังพัฒนาปรับปรุงพื้นที่ว่างภายในวัดให้เป็นระเบียบสวยงาม เช่น จัดทำสวนดอกไม้ประดับ และปลูกสวนป่าตามโครงการในพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เป็นต้น
ลำดับงานปกครอง พ.ศ.2498 เป็นเจ้าอาวาสวัดพุทไธศวรรย์ พ.ศ.2499 เป็นเจ้าคณะตำบลสำเภาล่ม พ.ศ.2511 เป็นพระอุปัชฌาย์
ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2508 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะตำบลชั้นตรี ในราชทินนามที่ พระครูภัทรกิจโสภณ พ.ศ.2516 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบลชั้นโท ในราชทินนามเดิม
พ.ศ.2524 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบลชั้นเอก ในราชทินนามเดิม
พ.ศ.2551 ได้รับพระราชทานเลื่อนและตั้งสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ พระพุทไธศวรรย์วรคุณ
ปฏิบัติงานในหน้าที่ เดินทางไปตรวจเยี่ยมวัดเขตปกครองทุกวัดตามแต่โอกาสอำนวย ทั้งการตรวจเยี่ยมโดยตรงและเดินทางไปทำพิธีกรรมและอุปสมบทในฐานะพระอุปัชฌาย์ โดยได้ชี้แนะให้คำปรึกษาในการปฏิบัติงานของเจ้าอาวาส แนะนำการปฏิบัติตนของพระภิกษุและสามเณรให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัย
อีกทั้งมุ่งมั่นที่จะพัฒนาด้านการศึกษาให้มีความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าทัดเทียม ด้วยการส่งเสริมพระภิกษุสามเณรให้ศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกธรรมและบาลี
ด้านการสร้างพระเครื่อง-วัตถุมงคลนั้น เป็นศิษย์สืบทอดพระเวทวิทยาคมสายวัดประดู่ทรงธรรมจากหลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช มีวิชาเล่นแร่ แปรธาตุ ถึงขนาดลูกศิษย์ลูกหาร่ำลือกันว่า หลวงพ่อหวลตัดเหล็กไหลหลอมเหล็กไหลได้
ท่านสร้างวัตถุมงคลประเภทเหรียญรุ่นแรก มีประสบการณ์โด่งดังแพร่สะพัดไปทั่วตั้งแต่ปี พ.ศ.2515 ส่วนเงินทุกบาททุกสตางค์ที่ได้รับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา จะนำไปพัฒนาวัดและส่งเสริมด้านการศึกษาทั้งสิ้น
กล่าวได้ว่าพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลรุ่นดังแทบทุกรุ่นต้องมีชื่อเข้าร่วมพิธีด้วยแทบทุกงาน
ด้วยสังขารเป็นสิ่งไม่เที่ยง เมื่อเวลา 11.00 น. วันศุกร์ที่ 11 ธ.ค.2563 มรณภาพอย่างสงบ ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์